>> ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Blogger BIT1221 พื้นฐานคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี สาเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ<<

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วิธีลง Windows 7 ละเอียดทุกขั้นตอนก่อนติดตั้ง Windows 7

 คอมพิวเตอร์ที่ใช้สำหรับลง Windows 7 ควรจะมีสเปคอยู่ในระดับปานกลาง แต่แนะนำว่าควรเป็นคอมพิวเตอร์รุ่นไม่เก่าจนเกินไปนัก และใช้การ์ดจอแบบ 3D ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติของเครื่องคอมพิวเตอร์ขั้นต่ำที่สามารถใช้งาน Windows 7 ได้อย่างราบรื่น
          - ซีพียู ความเร็วขั้นต่ำ 1 GHz (32 bit หรือ 64 bit ก็ได้)
          - แรม ขั้นต่ำ 1 GB
          - พื้นที่ว่าง ในฮาร์ดดิสก์ที่จะ ลง Windows 7 อย่างน้อย 16 GB
          - กราฟิกการ์ด มีหน่วยความจำขั้นต่ำ 128 MB และควรสนับสนุน DirectX9
          - ไดร์ฟ DVD-R/W สำหรับการลง Windows 7 ผ่านแผ่น DVD
          นอกจากคุณสมบัติข้างต้นแล้ว คุณสมบัติบางอย่างของ Windows 7 อาจต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม เช่น การบันทึกรายการทีวี จะต้องมีการ์ดสำหรับการบันทึกภาพ การใช้งานระบบสัมผัส การเขียนด้วยลายมือ หน้าจอจะต้องรองรับระบบมัลติทัช เป็นต้น

วิธีลง Windows 7
          1.Restart และกำหนดให้เครื่องบูตจากแผ่น DVD โดยขั้นตอนการบูตของ Windows เริ่มต้นให้เรากดปุ่ม F2 หรือ Del แล้วแต่รุ่นของไบออสในคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ในที่นี้ยกตัวอย่างดังภาพด้านล่าง ซึ่งหลักการก็คือเมื่อเข้าไบออสได้แล้ว ให้ตั้งค่าบูตจากแผ่น CD/DVD เป็นอันดับแรก
          ** ส่วนมากเครื่อง PC จะกดปุ่ม Del
          ** โน๊ตบุ๊คส่วนใหญ่จะกดปุ่ม F2
                   - ในตัวอย่างนี้ให้กดปุ่มลูกศรที่คีย์บอร์ดเลื่อนลงมาเลือก Advanced BIOS Features


    - ให้เลื่อนลงมาเลือกตรง First Boot Device กด Enter แล้วเลือกเป็น CD/DVD ROM


                              - เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้กดปุ่ม F10 บนคีย์บอร์ดแล้วพิมพ์ Y หลังจากนั้นกด Enter

       2.เริ่มขั้นตอนการลง Windows 7 จากแผ่น DVD สังเกตว่าเมื่อเครื่องเริ่มบูตจากแผ่นจะขึ้นข้อความดังภาพ ในขั้นตอนนี้ให้เรากดปุ่มใดๆ บนคีย์บอร์ดก็ได้เพื่อทำการบูต Windows




          3.เลือกภาษาที่ใช้ในระหว่างการลง
          4.เลือกประเทศ ในที่นี้เลือกประเทศ Thai
          5.เลือกวิธีจัดวางคีย์บอร์ดที่รองรับภาษาไทย จากนั้นคลิกปุ่ม Next



   6.คลิกปุ่ม Install now



    7.เลือกเวอร์ชันของ Windows 7 ที่ต้องการลง จากนั้นคลิกปุ่ม Next



 8.คลิก I Accept ยอมรับข้อตกลงเรื่องลิขสิทธิ์  แล้วคลิกปุ่ม Next




   9.คลิก Custom (Advanced)




** เรื่องเกี่ยวกับฟอร์แมตพาร์ติชันก่อนลง Windows 7 **
          ก่อนเข้าสู่การลง Windows 7 ขั้นตอนถัดไป หากไดร์ฟ หรือพาร์ติชันที่ต้องการลง Windows 7 เป็นไดร์ฟเก่าที่ยังคงมีข้อมูลเดิมอยู่ เราสามารถเลือกฟอร์แมตไดร์ฟนี้ก่อนได้ เพื่อล้างข้อมูลทั้งหมดบนไดร์ฟที่เลือก และเป็นการจัดระเบียบพื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ใหม่ด้วย
           การฟอร์แมตพาร์ติชันนี้ เราสามารถเลือกใช้คำสั่งระหว่างขั้นตอนการ ลง Windows 7 ได้ทันที โดยในขั้นตอนการเลือกพาร์ติชันสำหรับลง Windows 7 ให้เราคลิกที่ Drive options (Advanced) และเข้าไปเลือกสั่งฟอร์แมตพาร์ติชันก่อนได้ ดังนี้
                   - เลือกพาร์ติชันสำหรับ ลง Windows 7 ที่จะฟอร์แมตก่อน
                   - คลิกที่ Drive options (Advanced)




 - จะปรากฏคำสั่งสำหรับจัดการพาร์ติชัน ให้คลิกที่ Format เพื่อสั่งฟอร์แมตพาร์ติชันที่เลือก
นอกจากคำสั่ง Format แล้ว ในส่วนของ Drive options ยังมีคำสั่งอื่นๆ สำหรับจัดการพาร์ติชันที่เลือกอีก ดังต่อไปนี้
          Refresh : ให้โปรแกรมติดตั้งตรวจสอบพื้นที่พาร์ติชันใหม่อีกครั้ง
          Delete : ลบพาร์ติชันที่เลือกอยู่ ผลลัพธ์ที่ได้จะได้พาร์ติชันที่ไม่มีการจัดรูปแบบ (Unpartitioned space)
          New : เลือกสร้างพาร์ติชันใหม่ (ต้องมีพื้นที่พาร์ติชันที่ยังไม่มีการจัดรูปแบบอยู่ด้วย เพื่อดึงพื้นที่ไปใช้)
          Load Driver : โหลดไดรเวอร์ของอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้เพิ่มเติม เช่น ไดรเวอร์ฮาร์ดดิสก์ SATA รุ่นใหม่
          Extend : ขยายขนาดของพาร์ติชันที่เลือก



 - แจ้งว่าข้อมูลบนไดร์ฟที่เลือกทั้งหมดจะถูกลบทิ้ง ให้เราคลิกปุ่ม OK เพื่อยืนยันการฟอร์แมต


  - โปรแกรมติดตั้งจะทำการฟอร์แมตพาร์ติชัน ให้เรารอสักครู่

          10.เมื่อ Format เสร็จแล้ว ให้คลิกเลือกไดรฟ์ที่จะลง Windows ข้อสังเกตหลังจากเรา Format แล้วพื้นที่ไดรฟ์ในส่วนของ Total Size และ Free Space จะเท่ากัน
          11.คลิกปุ่ม Next


12.ขั้นตอนนี้จะมีการก๊อบปี้ไฟล์ลงไดรฟ์ที่เราเลือกลง Windows 7


   13.บางครั้งอาจมีการ Restart เครื่อง



           14.จะพบหน้าต่างสำหรับการปรับแต่งครั้งแรกก่อนมีการใช้งาน ให้รอสักครู่
          15.เมื่อขั้นหน้าต่างดังภาพ ให้กรอกชื่อผู้ใช้ (User Name)
          16.กรอกชื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้นคลิกปุ่ม Next

           17.ตั้งรหัสผ่าน
          18.กรอกรหัสผ่านเดิมซ้ำอีกครั้ง
          19.กรอกข้อความที่ใช้ไขปริศนารหัสผ่านในกรณีลืมรหัสผ่าน จากนั้นคลิกปุ่ม Next


  20.กรอก Product Key จากนั้นคลิกปุ่ม Next

 21.คลิก User recommended


 22. ตั้งวันที่ และเวลาให้ถูกต้อง หลังจากนั้นคลิกปุ่ม Next
                    - Time zone UTC+07.00 Bangkok,Hanoi,Jakarta


                                                          23.เสร็จสิ้นขั้นตอนการลง Windows 7



      เพียงเท่านี้เครื่องเราก็จะใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 ได้แล้ว ซึ่งจากขั้นตอนการลง Windows 7 ดังกล่าวนั้น ผู้อ่านสามารถทำตามทีละขั้นตอนได้เลย ง่ายมากๆ :)

ที่มา http://www.com5dow.com/













DexType พิมพ์สะดวกผ่าน Leap Motion

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] Leap Motion อุปกรณ์สำหรับการควบคุมคอมพิวเตอร์ผ่านการทำงานบนเทคโนโลยี Motion Sensor โดยไม่พึ่งเมาส์หรือคีย์บอร์ด สามารถใช้พื้นที่ว่างในอากาศใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณ ซึ่งในสัปดาห์นี้ทางผู้ผลิตจะเริ่มทะยอยจัดส่ง Leap Motion ให้กับผู้ที่สั่งซื้อแล้ว และเพื่อเป็นการเพิ่มความสะดวกกับการใช้งานกลางอากาศ DexType ซอฟต์แวร์ตัวใหม่จะเข้ามาช่วยให้การพิมพ์ง่ายขึ้น




      DexType เป็นซอฟต์แวร์ตัวใหม่ในรูปแบบของปลั๊กอินสำหรับ Google Chrome ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Leap Motion ซึ่งในหน้าการใช้งานของ DexType จะมีแป้นพิมพ์รูปแบบหนึ่งอยู่ด้านล่างจอและฟังก์ชันในการใช้งานอื่นด้านบนของจอ มีจุดวงกลมสีแดงที่เสมือนเซนเซอร์ชนิดหนึ่งคอยจับการเคลื่อนไหวของนิ้วมือ เมื่อผู้ใช้เริ่มการพิมพ์เซนเซอร์ตัวนี้จะเลื่อนไปกดบนตัวอักษรตามการสั่งการของนิ้วพร้อมการเดาคำศัพท์ตามตัวอักษรที่เราพิมพ์ไปในตัว นอกจากนี้เรายังสามารถใช้นิ้วควบคุมเซนเซอร์สำหรับป้อนตัวอักษรตัวถัดไปแบบอัตโนมัติและลบคำผิดได้อีกเช่นเดียวกัน รวมไปถึงการใช้นิ้วควบคุมเซนเซอร์วาดตัวเลขหรือตัวอักษร โดยตัว DexType จะทำการเดาสิ่งที่เราวาดว่าเป็นตัวเลขหรือตัวอักษรใดและจะแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องต่อไป
    สำหรับ DexType จะช่วยให้การพิมพ์กลางอากาศผ่าน Leap Motion เป็นไปอย่างงายดายยิ่งขึ้นเรียกได้ว่าผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความแม่นยำอย่างที่พิมพ์งานบนคีย์บอร์ดจริงด้วยซ้ำ นอกจากนี้ DexType ยังสามารถใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตได้อีกด้วย

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Windows 9 จะเปิดตัวกลางปี 2013?

      สงสัยไมโครซอฟท์ (Microsoft) คงจะเริ่มเดินเกมเรื่องสื่อบ้าง หลังจากที่ในปี 2012 พื้นที่สื่อ โดยเฉพาะออนไลน์ถูกแอปเปิ้ล (Apple) เอาไปกินตลอดทั้งปี ซึ่งล่าสุดมีข่าวว่า ไมโครซอฟท์จะเปลี่ยนกำหนดการอัพเกรดระบบปฏิบัติการจากปลายปีเป็น "กลางปี" เริ่มต้นที่โอเอสรุ่นถัดไปที่มีโค้ดเนมว่า Windows Blue หรือ Windows 9 ที่มีกำหนดการเปิดตัวประมาณกลางปี 2013
       แหล่งข่าวจากผู้ใช้ทีใช้ชื่อในกระทู้ว่า maxy บนเว็บไซต์ PCBeta ที่เคยเปิดเผยข่าวอย่างไม่เป็นทางการสำหรับโอเอสใหม่ของไมโครซอฟท์ที่ชื่อว่า Windows Blue หรือ Windows 9 Dev แล้วแต่จะเรียก ได้โพสต์ข้อความว่า ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่จะเพิ่มออปชั่นในการปรับแต่ง tile ของแอพฯ ได้แบบเดียวกับ Windows Phone 8 และจะยังคงเก็บมุมมองการใช้งานในโหมด Desktop ไว้เหมือนเดิม แต่จะมีการตัดองค์ประกอบที่ผู้ใช้หลายคนคุ้นเคยออกไปจากเดสก์ทอปด้วยอย่างเช่น "ทาสก์บาร์" ที่อยู่ด้านล่างของหน้าจอใช้งานในโหมดนี้ หลังจากที่เอาปุ่ม Start ออกไปแล้วใน Windows 8 ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ มุมมองของ Metro UI กับ Desktop จะคล้ายคลึงกันมากขึ้น งานนี้ดูเหมือนไมโครซอฟท์จะพยายามถอดเดสก์ทอปโหมดออกไป เพื่อให้เหลือแค่ Metro UI เพียงอย่างเดียวในอนาคต

แหล่งข่าวที่ใช้นามว่า Maxy ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วยว่า Windows Blue หรือ Windows 9 จะใช้แกนการทำงานหลักเวอร์ชันใหม่ หรือ Kernel 6.3 ซึ่งจะทำให้ระบบการทำงานทั้งหมดดีขึ้นกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม คงจะเร็วไปหากจะสรุปว่า รายงานข่าวทั้งหมดเกียวกับ Windows Blue หรือ Windows 9 ที่มีการเปิดเผยในช่วงที่ผ่านมาจะเป็นเรื่องจริง หรือแค่ข่าวลือ แต่อย่างน้อย มันได้แสดงให้เห็นถึงโจทย์ใหญ่ที่ไมโครซอฟท์ต้องพยายามอย่างหนัก นั่นก็คือ การเปลี่ยนให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่หันมาใช้ Metro UI (เปลี่ยนแปลงการใช้อินเตอร์เฟซโดยสมบูรณ์ ไม่คงไว้ซึ่งเดสก์ทอปแบบเดิมอีกต่อไป) และพอใจกับประสิทธิภาพการทำงานของโอเอสจะเป็น Windows 8 หรือเวอร์ชันใหม่ เพราะไม่เช่นนั้น ผู้ใช้จะยังคงยึดติดอยู่กับ Windows 7 ตราบนานเท่านาน เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับ Windows XP


5 ปัญหาเน็ตหลุด สะดุดที่ตรงไหน ตรวจสอบได้ด้วยตัวคุณเอง

         ครั้งก่อนทางกองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip ได้นำเสนอบทความเรื่อง "5 วิธีง่ายๆ ในการเพิ่มสัญญาณ Wi-Fi ในบ้านของคุณ" มาวันนี้ เรามีบทความเกี่ยวกับปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ตที่พบกับคุณผู้อ่านได้ทุกท่าน นั่นก็คือ ปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet connection problem) ที่สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับผู้ใช้ได้เสมอ



          แทนที่เอะอะอะไรก็จะใช้วิธีกดปุ่ม F5 เพื่อรีเฟรชบราวเซอร์ให้โหลดหน้าเว็บที่อยู่ดีๆ โหลดไม่ขึ้นซะงั้น ซึ่งบางทีปัญหามันไม่ใช่แค่ที่คุณเห็น เพราะการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าสู่อินเทอร์เน็ตไม่ได้มีแค่การต่อสายอีเธอร์เน็ต หรือเปิดสวิตช์ Wireless บนโน้ตบุ๊ก แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย บทความนี้จะแนะนำการตรวจสอบต้นตอของปัญหาการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในระหว่างที่ใช้งาน เพื่อหาสาเหตุ และแก้ไขได้อย่างถูกต้อง แน่นอนว่า สิ่งแรกที่คุณต้องเช็คก่อนเลย เวลาที่เน็ตใช้การไม่ได้ คือ การเชื่อมต่อของฮาร์ดแวร์ เริ่มต้นที่สายเคเบิ้ลที่ต่อกับคอมพ์ ไปจนถึงปลั๊กเสียบเราท์เตอร์ที่ใครอาจเผลอไปเตะมันหลุดแล้วคุณไม่รู้ หรือมีมือดีไปปิดสวิทช์เพราะเห็นมันเปิดนานแล้ว - -" หากการเชื่อมต่อเน็ตของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ต่างๆ ปกติดีแล้ว ไม่มีหลุด หรือปิดสวิตช์ แต่อย่างใด ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการตรวจสอบปัญหาการเชื่อมต่อ ซึ่งมีคำสั่ง และวิธีการที่น่าสนใจดังนี้
Ping ดูว่า"เน็ต"ยังอยู่หรือไม่? หากการเชื่อมต่อทุกอย่างเรียบร้อยดี ขั้นตอนต่อมาก็คือ การตรวจสอบการเชื่อมต่อของเน็ตจากบ้านคุณด้วยคำสั่ง Ping เริ่มต้นด้วยการเปิดหน้าต่าง command คลิกปุ่ม Start พิมพ์ cmd แล้วกดปุ่ม Enter บนคีย์บอร์ด จากนั้นในหน้าต่าง cmd พิมพ์คำสั่ง ping ตามด้วยชื่อเว็บไซต์่ อย่างเช่น ping arip.co.th หรือ ping google.com เป็นต้น 



          คำสั่งนี้จะเป็นการบอกให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเน็ตทดลองส่ง แพ็คเก็ตของข้อมูล ไปยังแอดเดรสของเว็บไซต์ที่คุณระบุ ซึ่งทางเว็บเซิร์ฟเวอร์ของ arip หรือ google ก็จะตอบสนองแต่ละแพคเก็ตของข้อมูลที่มันได้รับ โดยจากในภาพข้างบนนี่้จะเเห็นว่า ทุกอย่างทำงานปกติ แพคเก็ตที่รับไม่ได้ (packet loss) มี 0% ในขณะที่เวลาตอบสนองแต่ละแพคเก็ต (time=?ms) ค่อนข้างต่ำ
          หากคุณผู้อ่านใช้คำสั่ง Ping แล้วพบว่า packet loss ไม่ใช่  0% ซึ่งหมายถึง เว็บเซิร์ฟเวอร์ที่คุณติดต่อเข้าไปไม่ตอบสนองแพ็คเก็ตใด แพ็คเก็ตหนึ่งที่ถูกส่งไป นั่นหมายความว่า มันมีปัญหาการเชื่อมต่อกับเน็ตอย่างไม่ต้องสงสัย หรือบางทีเว็บเซิร์ฟเวอร์ใช้เวลาตอบสนองช้ามาก นี่ก็เป็นปัญหาการเชื่อมต่อเหมือนกัน นอกจากนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเกิดกับเว็บไซต์บางแห่งเท่านั้น (จากในรูปจะเห็นว่า คำสั่ง ping microsoft.com เว็บเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์จะไม่ตอบสนองคำสั่งนี้ ในขณะที่การเชื่อมต่อไม่ได้มีปัญหา - -") หรือบางทีปัญหาอาจเกิดกับ ISP ทีคุณใช้บริการ (ลิงค์ขาด, ซ่อมบำรุง ฯลฯ) ลองโทรสอบถามทางผู้ให้บริการ หรือเกิดกับเครือข่ายในบ้านคุณเอง (เราท์เตอร์ ได้ลาจากโลกไปแล้ว ถึงจะต่อเคเบิ้ล ตรงๆ ก็ยังเข้าเน็ตไม่ได้อยู่ดี แต่เพื่อนข้างบ้านที่ใช้ ISP เดียวกัน ท่องเน็ตฉลุย)




iOS 7 เจอด่านทดสอบด้านความปลอดภัย

          [เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] เมื่องาน WWDC 2013 ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่าน Apple ประกาศเปิดตัว iOS 7 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ทางด้านความปลอดภัยที่ชื่อว่า "Activation Lock" สำหรับป้องกันข้อมูลส่วนตัวในกรณีที่ iPhone ของคุณถูกโจรกรรมไป ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวกำลังจะถูกทดสอบโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าฟีเจอร์นี้สามารถปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ iPhone ได้จริงแม้จะมีความพยายามแฮ็ค Apple ID ก็ตามที

แอปเปิลปิดช่องโหว่ลงอีมูเลเตอร์ Game Boy Advance โดยไม่ต้องเจลเบรกแล้ว

          โอกาสของผู้ใช้ iOS ที่อยากเล่นเกมเก่าบนเครื่องนินเทนโดถูกปิดไปอีกทางแล้ว หลังจากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา Riley Testut ได้พัฒนาแอพอีมูเลเตอร์ Game Boy Advance ในชื่อ GBA4iOS ซึ่งใช้วิธีการลงโดยที่ไม่ต้องเจลเบรกเครื่องก่อน (ส่วน App Store นี่ลืมไปได้เลย เพราะแอปเปิลคอยลบอยู่เป็นระยะๆ)
          การแก้ไขเรื่องข้อจำกัดจำนวนคน Testut ทำโดยใช้ระบบที่เรียกว่า MacBuildServer ที่ผูกเข้ากับ GitHub ของเขาและให้ผู้ใช้ที่ต้องการแอพมาคอมไพล์กันเองผ่านระบบของ MacBuildServer และ sign ตัวแอพให้ จึงแก้ปัญหาเรื่องจำนวนแอพที่ลงได้จำกัดไป
     หลังจากผ่านไปได้ไม่กี่วัน แอปเปิลได้ติดต่อไปทางผู้ก่อตั้งของ MacBuildServer เพื่อแจ้งว่าใบรับรอง (certificate) ของบริษัทถูกใช้งานในทางละเมิดข้อตกลงของแอปเปิล ผลคือในตอนนี้แอพ GBA4iOS จึงไม่สามารถใช้วิธีการ sideload ลงผ่าน MacBuildServer ได้อีกแล้ว
ที่มา -Blognone ReadWrite 12

วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ไมโครซอฟท์เริ่มจ่ายค่าตอบแทนการหาบั๊กใน Windows 8.1 แล้ว คนแรกเป็นพนักงานกูเกิล

       ถ้ายังจำแคมเปญค้นหาบั๊กใน Windows 8.1 ได้ ล่าสุดในวันนี้บล็อก TechNet เริ่มประกาศผลการค้นหาบั๊กแล้วโดยคนแรกที่ได้รับรางวัลไปก็คือ Ivan Fratric วิศวกรฝ่ายรักษาความปลอดภัยข้อมูลของกูเกิล ซึ่งเป็นผู้ที่เคยชนะในรายการค้นหาบั๊กของไมโครซอฟท์เมื่อปีที่แล้วด้วย
        โดยช่องโหว่ที่ Ivan สามารถหาได้ คือช่องโหว่ที่เกี่ยวข้องกับ Internet Explorer 11 แต่ไมโครซอฟท์ไม่ระบุชัดเจนว่าเป็นบั๊กที่ Iva หาเจอ มันเกี่ยวข้องกับส่วนไหน แต่ที่แน่ๆ Ivan จะได้รับเงินรางวัลประมาณ 11,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นค่าตอบแทนในการค้นหาบั๊กครับ
         ท้ายที่สุดไมโครซอฟท์ยังเปิดเผยว่า หลังเปิดแคมเปญนี้ได้ไม่กี่วัน ไมโครซอฟท์ก็ได้รับรายงานเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามแคมเปญนี้เฉพาะส่วนของ Internet Explorer 11 จะปิดรับแจ้งบั๊กวันที่ 26 กรกฎาคมนี้
ที่มา -Blognone BlueHat Blog ผ่าน Neowin

อินเทลร่วมมือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สร้างศูนย์ทดสอบ Intel Phi

            ศูนย์นี้ก็เปิดให้คนภายนอกเข้าไปทดลองใช้งานได้โดยเขียนข้อเสนอโครงการ คร่าวๆ ว่าจะใช้ Phi เพื่อทำอะไรแล้วอีเมลเข้าไปยังโครงการ การ์ด Intel Phi เป็นการ์ดคำนวณประสิทธิภาพสูง กระบวนการทำงานออกแบบสำหรับการคำนวณกับข้อมูลขนาดใหญ่ๆ ที่มีกระบวนการคำนวณเป็นแบบเดียวกันเป็นชุดๆ ตัว Intel Phi เองแม้จะราคาไม่แพงเกินไป (ต่ำกว่าแสน) แต่ก็ไม่ใช่ของที่เราจะเห็นกันได้ทั่วไปเหมือนการ์ดกราฟิก แนวทางของอินเทลจึงเป็นอาศัยการตั้งศูนย์ทดสอบเพื่อให้นักพัฒนาเข้าไปลองใช้ งานการ์ดนี้กัน และตอนนี้การ์ดใบนี้ก็มาตั้งเป็นศูนย์ทดสอบในเมืองไทยแล้วที่มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์
           การ์ด Phi เองเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์แยกขาดจากเครื่องหลักที่การ์ดมันติดตั้งอยู่ ภายในการ์ดเป็นลินุกซ์และต้องคุยกับเครื่องแม่ผ่านทาง TCP/IP แม้จะเป็น x86 แต่ต้องการคอมไพล์เลอร์เฉพาะ (เท่าที่ทราบมีแต่คอมไพล์เลอร์ของอินเทลเท่านั้นที่รองรับ) เพราะฟอร์แมตไฟล์ต่างไปจากลินุกซ์ปกติ แต่เมื่อคอมไพล์แล้วก็สามารถนำไฟล์ executable ขึ้นไปรันได้เหมือนลินุกซ์ทั่วไป
          ข้อได้เปรียบสำคัญของการใช้การ์ด Phi คือ การเชื่อมต่อกับตัวการ์ดนั้นกินเวลาต่ำกว่าการเชื่อมต่อผ่านเน็ตเวิร์คทั่ว ไปมาก ผมทดลอง ping ไปยังตัวการ์ดได้เวลาเพียง 0.3ms และยังคอมไพล์โปรแกรมแบบเดิมๆ เข้าใช้งานได้ (แต่ต้องคอมไพล์ใหม่) ดังนั้นหากมีแอพพลิเคชั่นที่เป็นคลัสเตอร์ลินุกซ์อยู่แล้ว ก็มีโอกาสจะย้ายงานมารันบน Phi ได้ทัน

วันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Word Web App แก้เอกสาร PDF ผ่านหน้าเว็บได้โดยตรง

ไมโครซอฟท์ประกาศฟีเจอร์ใหม่ของ Word Web App (Microsoft Word เวอร์ชันทำงานผ่านเบราว์เซอร์) ว่าสามารถแก้ไขเอกสาร PDF ได้แล้ว โดยจะแยกแก้ไขเป็นไฟล์ Word อีกไฟล์หนึ่ง ไม่ใช่แก้ทับไฟล์ PDF เดิมไมโครซอฟท์เตือนว่าการแก้เอกสาร PDF อาจมีฟอร์แมตไม่ตรงกับต้นฉบับเป๊ะๆ แต่ก็ช่วยให้ผู้ใช้ที่ต้องการแก้ไขข้อความในไฟล์ PDF ไม่ต้องไปหาโปรแกรมแก้ PDF เพิ่มเติม

LG โชว์ LCD ขนาด 5.2 นิ้ว 1080p บางที่สุดในโลก

LG เปิดตัวหน้าจอชนิด LCD ที่ขนาด 5.2 นิ้ว ด้วยความละเอียดที่ 1080×1920 พิกเซล ซึ่งบางที่สุดในโลก โดยความบางจะอยู่ที่ 2.2 มิลลิเมตร และมีความกว้างของขอบจอที่ 2.3 มิลลิเมตร
LG ได้เรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Advanced One-Glass-Solution (OGS) ซึ่งเป็นการใส่แผงวงจรคู่แบบยืดหยุ่นให้อยู่ระหว่าง LCD panel และ touch film และไม่มี sub-pixel ทำให้เม็ดสีแสดงผลที่ได้เป็นแบบ RGB อีกทั้งให้ความสว่างสูงสุดที่ 535 nit ซึ่งมากกว่าทุกจอแสดงผลแบบ 1080p ในตลาดปัจจุบัน

คู่มือ การติดตั้งโปรแกรมและการใช้งาน Format Factory เวอร์ชั่น 3.1.1


ขั้นตอนการติดตั้งโปรแกรม  Format Factory  เวอร์ชั่น : 3.1.1





.           1.  เข้าเว็บไซต์ http://software.thaiware.com/index.php คลิกที่โปรแกรม Format Factory (โปรแกรมแปลงไฟล์ แปลงหนัง แปลงรูปภาพ แปลงเพลง แปลงวีดีโอ) 3.1.1




2. คลิก ดาวน์โหลด




3.   จะปรากฏ คำว่า ดาวโหลดไฟล์อัตโนมัติภายใน 10 วินาที ดังรูป เพื่อที่จะทำการโหลดอัตโนมัติ



4.  หน้าต่างเว็บจะเปลี่ยน ดังรูป  โปรแกรมโหลดอัตโนมัติ



5.  จะปรากฏหน้าต่าง open file-Security Warning คลิก  Ran  เพื่อดำเนินการติดตั้งต่อไป




6. เป็นขั้นตอนให้เราเลือกเก็บไฟล์โปรแกรมไว้ที่ไหน อันนี้เลือกเก็บไฟล์ที่ ไดรว์ C



7.  เป็นขั้นตอนที่โปรแกรมกำลังทำการติดตั้ง Installing ต้องรอสักครู่




8.   คลิก Next เพื่อดำเนินการติดตั้งต่อไป




9.  คลิก Accept เพื่อยอมรับการติดตั้งโปรแกรม




10. คลิก Finish เพื่อเสร็จสิ้นการลงโปรแกรมอย่างสมบูรณ์



หน้าต่างโปรแกรม Format Factory  เวอร์ชั่น : 3.1.1 หน้าแรกของโปรแกรมหลังจากทำเดินการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

























วิธีการใช้งานโปรแกรม Format Factory เวอร์ชั่น 3.1.1


          Format Factory (โปรแกรมแปลงไฟล์ แปลงภาพ แปลงเพลง แปลงวีดีโอ ตามต้องการ) : สำหรับโปรแกรม Format Factory เป็นรวมฮิตหรือ โปรแกรมแปลงไฟล์ ทั้ง แปลงภาพ แปลงเพลง และ แปลงวีดีโอ เอาเข้าไว้ด้วยกัน โปรแกรมแปลงไฟล์ ตัวนี้สามารถจัดการได้หมด อย่างเช่นไฟล์ VDO ก็สามารถแปลงไปมาได้ทั้ง MP4/ 3GP/ MPG/ AVI/ WMV/ FLV/ SWF ไฟล์ เพลง ก็ MP3/ WMA/ MMF/ AMR/ OGG/ M4A/ WAV
หากมาดูในส่วนของ การแปลงรูปภาพ โปรแกรมแปลงไฟล์ ของโปรแกรม Format Factory ก็ไม่น้อยหน้าทั้ง JPG/BMP/PNG/TIF/ICO ได้หมด เท่านั้นยังไม่พอ โปรแกรมแปลงไฟล์ ตัวนี้ยังทำการ Rip ไฟล์จากแผ่น CD เพลงมาเป็น MP3 ก็ยังทำได้ หรือจะจากแผ่น DVD มาทำเป็นไฟล์ VDO ตามต้องการจะเอาไปลงมือถือรุ่นไหนก็ยังเลือกได้ ครบเครื่องต้มยำอย่างนี้อย่าช้าครับ ..

 Supported Multimedia Files (ไฟล์มัลติมีเดีย ที่สนับสนุน กับ โปรแกรมแปลงไฟล์ Format Factory) :
  • ไฟล์หนัง (ไฟล์ภาพยนตร์) : MP4/3GP/MPG/AVI/WMV/FLV/SWF.
  • ไฟล์เพลง (ไฟล์ออดิโอ) : MP3/WMA/AMR/OGG/AAC/WAV.
  • ไฟล์รูปภาพ : JPG/BMP/PNG/TIF/ICO/GIF/TGA.

Program Features (คุณสมบัติ ความสามารถของ Format Factory โปรแกรมแปลงไฟล์) :
  1. โปรแกรมแปลงไฟล์ สนับสนุน แปลงไฟล์หนัง แปลงไฟล์ภาพยนตร์ แปลงไฟล์เพลง แปลงไฟล์รูปภาพ กลับไปกลับมา ได้อย่างลงตัว
  2. ซ่อมแซมไฟล์หนัง (ไฟล์ภาพยนตร์) หรือ ไฟล์เพลง ที่เสีย หรือ ไม่สามารถเปิดได้ ด้วยโปรแกรมเล่นหนัง โปรแกรมเล่นเพลง ให้กลับมาเปิดได้ ตามปกติ
  3. มีระบบ ช่วยลดขนาด ไฟล์มัลติมีเดีย (หนัง เพลง หรือ ภาพ) ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเหมาะสมกับอุปกรณ์จัดเก็บ หรือเครื่องเล่น
  4. สนับสนุน การเล่นไฟล์บนเครื่อง iPhone / iPod touch / iPad ด้วย โปรแกรมแปลงไฟล์
  5. สามารถ หมุนรูปภาพ (Rotate) ซูม (Zoom) ย่อขยายรูปภาพ
  6. สามารถ RIP หนังออกจากแผ่น DVD ลงมาเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ได้ (DVD Ripper)
  7. รองรับกับอุปกรณ์พกพาทุกชนิดทั้งหลาย
  8. สนับสนุนภาษามากกว่า 62 ภาษา (ไม่มีภาษาไทย)
  9. สนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows ทุกประเภท

Version History (สิ่งที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในโปรแกรม Format Factory ในแต่ละเวอร์ชั่น) :
  1. สนับสนุน Windows 8 อย่างเต็มรูปแบบ
  2. ปรับปรุงโปรไฟล์ของวีดีโอต่างๆ
  3. แก้ไขข้อผิดพลาดของค่าเริ่มต้น (Default Value) ของ Bitrate และ Resolution
  4. แก้ไขข้อผิดพลาดของซับไตเติ้ล (Subtitle)
  5. แก้ไขปัญหาของระบบ Mixer ในส่วนของไฟล์ MP4
  6. ปรับปรุงในส่วนของหน้าตาของ โปรแกรมแปลงไฟล์ (Format Factory)

Note : โปรแกรมแปลงไฟล์ Format Factory นี้ ทางผู้พัฒนา Format Factory (Program Developer) เขาได้แจกให้ ทุกท่านได้นำไปใช้กันฟรี FREE ! นะครับผม โดยท่าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ครับผม โดยท่านสามารถที่จะติดต่อกับทาง ผู้พัฒนา โปรแกรมแปลงไฟล์ นี้ได้ทาง E-Mail : pcfreetime@gmail.com (ภาษาอังกฤษ) นะครับผม ...







กรณีต้องการแปลงไฟล์วีดีโอ  1. คลิกที่คำว่า วีดีโอ


หน้าต่างของไฟล์วีดีโอทั้งหมด

ยกตัวอย่าง  เราต้องการแปลงไฟล์ที่อัปโหลดมาจาก YouTube แต่เนื่องจากไฟล์วีดีโอมันใหญ่จึงไม่สามารถที่จะนำไฟล์วีดีโอนี้ใส่ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ที่เข้ากันได้กับอุปการ์เครื่อนที่ 3GP เช่น โนเกีย X2



ขั้นตอนที่ 2 คลิก ที่ปุ่ม อุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังรูป





ขั้นตอนที่ 3 ให้เราคลิกเลือกข้อความ ที่เข้ากันได้กับอุปกรณ์เคลื่อนที่ 3GP ดังรูป


ขั้นตอนที่ 4 คลิกปุ่ม ตกลงดังรูป



ขั้นตอนที่ 5 คลิก เพิ่มแฟ้ม ดังรูป



ขั้นตอนที่ 6 ให้เราเลือกไฟล์วีดีโอที่เราต้องการแปลงไฟล์

                                     ขั้นตอนที่ 7 คลิก Open




 ขั้นตอนที่ 8 จะปรากฎไฟล์ที่เราจะแปลง ดังรูป


ขั้นตอนที่ 9 คลิกปุ่ม ตกลง ดังรูป




ขั้นตอนที่ 10 คลิกปุ่ม เริ่ม ดังรูป




ขั้นตอนที่ 11 กำลังดำเนินแปลงไฟล์ รอสักครู่



ขั้นตอนที่ 12 หลังจากแปลงไฟล์เสร็จสมบูรณ์ คลิกที่ โฟลเดอร์ปลายทาง เพื่อดูวีดีโอที่เราได้ทำการแปลงไฟล์แล้ว ดังรูปด้านล่างค่ะ



เป็นอันว่าโปรแกรมนี้ แค่เราต้องการแปลงไฟล์เป็นแบบไหน แค้คลิกเลือกไฟล์นั้นแลัวทำการแปลงไฟล์ได้เลยค่ะ อันนี้แค่ยกตัวอย่างกรณีเลือกไฟล์ที่สามารถเข้ากับโทรศัพท์ของเราได้เองค่ะ











วีดีโอ การใช้โปรแกรม  Format Factory  เวอร์ชั่น : 3.1.1